" เงิน "
ไม่ใช่สิ่งสำคัญจริงหรือ ? อะไรคือความพอดิบพอดี
ในการทำงานหาเงิน ?
พบการบอกเล่าเรื่องราวผ่านบล็อก " บริหารใจ สไตล์ส้มโอ "
อีกมุมมองที่ช่วยเก็บเกี่ยวความสุข ให้เรามีทั้งชีวิต และเหตุผลที่ทำให้อยากมีชีวิต
เรามักได้ยินบ่อย ๆ กับคำพูดสวยหรูว่า " เงิน "
ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เพราะไม่ว่าจะกิน จะนอน เจ็บป่วย ท่องเที่ยว เดินทาง ค่าเล่าเรียนลูก ฯลฯ ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่ถกกันมาก ถึงความพอดิบพอดี ในการทำงานหาเงิน
สำหรับผู้เขียน ดอกไม้ของชีวิต อันดับหนึ่งยกให้การเดินทาง
" ท่องเที่ยว " แม้ช่วงหลัง ๆ งาน ภาระความรับผิดชอบ
จะไม่เอื้อให้เดินทางท่องเที่ยวไกล ๆ แบบไปนาน ๆ มากนัก แต่ก็ไม่ลืมจัดโหมดท่องเที่ยวพักใจ ไว้ในตารางของชีวิตเสมอ โดยอาศัยช่วงว่างของลูก ๆ ในตอนปิดเทอม
เมื่อนึกย้อนถึงตอนที่ยังวัยละอ่อน ทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก ไปหมด เดินขึ้นภูกระดึงได้ไม่มีเหน็ดเหนื่อย
( แต่ก็แอบแวะพักทุกซำเลย) แต่ตอนนี้อะไรที่มีบันไดสูงๆ
ต้องปีนป่าย ขอพักอยู่ข้างล่างแล้วกัน ถ้าต้องขึ้นที่สูง ๆ ใจมันได้ แต่กายไม่อำนวย เพราะงั้นใครอยากทำอะไร รีบทำตอนหนุ่ม ๆ สาว ๆ กันเลยนะคะ ท่องเที่ยวไปเยอะ ๆ เลย ( เหมือนเริ่มแก่
แต่ยอมรับค่ะว่าเป็นอย่างงั้นจริง ๆ ) ทำงาน หาเงิน ไปเที่ยว ทำเลย ทุกวันนี้ แม้ว่าผู้เขียนยังแสวงความตื่นเต้น
ยังชอบการเดินทาง แต่ด้วยวัยที่เปลี่ยนแปลง ไปเที่ยวไหน ขอแบบนอนสบาย กินอิ่ม กินของอร่อย ๆ และเดินทางไปกับคนที่เรารัก ได้เห็นอะไรใหม่ ๆ เท่านั้นก็มีความสุขแล้วค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันในการท่องเที่ยวคือ การเปิดใจรับความสุข รื่นรมย์ไปกับสิ่งที่ได้พบเจอในระหว่างทางด้วย ผู้เขียนเคยร่วมทางไปเป็นคณะใหญ่ แต่คนขับเกิดหลงทาง เนื่องจากมีผู้แนะนำทางลัดให้ สุดท้ายกลายเป็นขับรถอ้อม จนทำให้ถึงที่หมายช้าออกไป มีเสียงบ่นจากเพื่อนร่วมทางท่านหนึ่งดังขึ้นตลอดทาง เมื่อถึงที่หมาย แม้จะมีทิวทัศน์อันงดงามตรงหน้า ก็ไม่ทำให้อารมณ์ของท่านนี้เปลี่ยนไปเลย น่าเสียดายที่อุตส่าห์มาถึง
" ผาหล่มสัก " หลายคนเรียก ผาเรียงคิว |
จะเห็นได้เลยว่า ถ้าระหว่างทางไม่สนุกแล้วละก็ ต่อให้ถึงจุดหมาย ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี ผลลัพธ์แม้จะมีความสำคัญ แต่การเสพสุขกับกระบวนการของมันนั้น สำคัญยิ่งกว่า เพราะแม้ถึงเป้าหมายก็อาจไม่มีความสุขก็ได้ เหมือนดังเช่นการใช้ชีวิต ที่เราต้องรู้จักชื่นชมดอกไม้ริมทาง ความงดงามรอบข้างชีวิต ที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี่เองค่ะ
ดอกไม้ของชีวิตอีกอย่าง ต้องยกให้ " หนังสือ " ผู้เขียนโชคดีที่ไม่ได้เป็นคนบ้าของอะไรเลย เกิดชาติหน้าก็อยากเป็นคนแบบนี้ ไม่ติดอะไร ไม่บ้ายี่ห้อ ไม่ได้เสียเงินไปกับเรื่องพวกนี้เลย
เงินส่วนใหญ่ใช้ในสิ่งจำเป็นหลัก ค่ากินอยู่ ค่าเทอมลูก ให้พ่อแม่ นี่เป็นหลักเลย แบ่งไปลงทุนส่วนหนึ่ง แบ่งไว้ท่องเที่ยว และส่วนหนึ่งหมดไปกับหนังสือ ผู้เขียนใช้เงินประมาณ 20 % ต่อเดือน หมดไปกับการซื้อหนังสือ ชอบอ่าน คนใกล้ตัวก็ชอบอ่าน ( แต่ตอนนี้ Smartphone สามารถโหลดอ่านผ่านแอพ สะดวกและช่วยให้ได้อ่านหนังสือดี ๆ เยอะเลย เสียค่าธรรมเนียมรายปีไม่ถึงพัน...ทุ่นตังค์ไปได้มากทีเดียว ไม่ได้ช่วยโฆษณานะคะ แต่ Application เปลี่ยนโลกนี้ได้มากจริง ๆ ) อ่านได้ทุกแนว แต่ที่ชอบเป็นพิเศษคือ หมวด How to หลัง ๆ นี่หนังสือแปลของคนจีน เขียนดีมาก
หนังสือเป็นครูที่สอนเราได้มาก บางครั้งเวลาเราเจอบางประโยคมันทำให้ฉุกคิดขึ้นมา เอ๊ะ! เราลืมใครในชีวิตไปรึเปล่า มันสอนเราได้หลายอย่าง ทุกวันนี้มันสอนให้เราเป็นคนแบบนี้ เป็นครูที่สำคัญของเรา ความรู้ ความคิดความอ่าน ล้วนได้จากหนังสือทั้งสิ้น
ท่าเดิน " ชาร์ลี แชปลิน " ของผู้เขียน ต้องถ่ายภาพไว้ จึงจะเชื่อว่าตัวเอง มีท่าเดินสุดฮาแบบนั้น อีกภาพ.. เก็บ " หญ้าทะเล อ่าวคุ้งกระเบน " ทำ Thesis ... รู้สึก คิดถึง จริง ๆ |
หนังสือเป็นครูที่สอนเราได้มาก บางครั้งเวลาเราเจอบางประโยคมันทำให้ฉุกคิดขึ้นมา เอ๊ะ! เราลืมใครในชีวิตไปรึเปล่า มันสอนเราได้หลายอย่าง ทุกวันนี้มันสอนให้เราเป็นคนแบบนี้ เป็นครูที่สำคัญของเรา ความรู้ ความคิดความอ่าน ล้วนได้จากหนังสือทั้งสิ้น
การดู " หนัง " ฟัง " เพลง " ก็เป็นดอกไม้ยาใจให้ชีวิตอีกหนึ่งสิ่งของผู้เขียน " เพลง " ก่อให้เกิดความสะเทือนใจ และทำให้มีกำลังใจขึ้นมาได้ บางวันฟังเพลงดีๆมันทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เพลงในดวงใจของผู้เขียน ที่ฟังแล้วสบายใจทุกครั้งก็เช่น ฤดูที่แตกต่าง และเพลง Live and learn นี่ก็ชอบ " เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน.. " เพลงนี้เป็นธรรมะเลยก็ว่าได้ เป็นเพลงช่วยชีวิต ให้ผ่านเรื่องหนักๆ ได้อย่างดีเลยทีเดียว ฟังเพลงหวาน เพลงซึ้ง ก็ดื่มด่ำไปตามเนื้อเพลง บางครั้งก็เพ้อไปว่าอยากร้องได้ไพเราะแบบนั้นบ้าง เพราะชีวิตจริงผู้เขียนร้องเพลงเศร้า ได้ทั้งฮา ทั้งซึ้ง มากเลยทีเดียว 555.... หนังดี ๆ บางเรื่องมีอะไรที่ทำให้เรากลับมาฉุกคิด อารมณ์หลุดเข้าไปอยู่ในหนัง สนุกตื่นเต้น หนังโปรดในใจผู้เขียน เป็นซีรีย์ Prison Break ชอบที่ดำเนินเรื่องเร็ว ตื่นเต้นน่าติดตาม พล็อตเรื่องง่าย ๆ น้องชายพาพี่ชายแหกคุก แค่นั้น ! แต่ดำเนินเรื่องดีมาก ลุ้นตลอดทั้งเรื่อง IQ พระเอกเป็นเลิศจริง ๆ แม้ว่าล่าสุด เวนต์เวิร์ธ มิลเลอร์ ผู้รับบท ไมเคิล สกอฟิลด์ เพิ่งประกาศว่าเป็นเกย์ก็ตาม แหม..น่าเสียดายจริง แต่ก็รับได้ค่ะ...
ฮือ ๆๆ....
ลืมไม่ได้เลยสำหรับดอกไม้ของชีวิตผู้เขียนอีกอย่าง
นั่นคือ ลูกชาย พ่อทองก้อนทั้งสอง ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต แม้ว่าบางครั้งจะเหน็ดเหนื่อยเกินบรรยาย เห็นหน้าพ่อแม่ตัวเองลอยมาทันทีที่ความเมื่อยล้ามาเยือน ว่าท่านก็คงเหนื่อยแบบนี้ตอนเลี้ยงเรามา กว่าจะโต ทั้งทางกาย ทั้งความคิด แต่ลูกก็เป็นกำลังใจให้แม่มากๆ เลยทีเดียว ความไร้เดียงสาของเจ้าเด็กน้อย ทำให้แม่มีความทรงจำดี ๆ มากมาย ค่อย ๆ เรียนรู้ชีวิต ทีละนิด.. ทีละนิด นะจ๊ะ..เจ้าลูกชายตัวน้อย
ไม่ง่ายนัก ที่จะผ่านไปในแต่ละวัน แต่ก็คงไม่ยาก หากเรารู้จักใช้ชีวิต โดยหยิบความสุขใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วยกัน ปีนป่ายภูเขาแห่งชีวิตลูกนี้ พร้อม ๆ
กับชื่นชมดอกไม้ริมทาง ก็ไม่รู้ว่ากฎแห่งจักรวาลมีอยู่จริงไหม แต่ถ้าได้เริ่มด้วยอะไรดี ๆ
วันนั้นทั้งวันจะดีเสมอ ชาร์จแบตเต็ม แล้วออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่ มีความสุขกันถ้วนหน้านะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น