วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

4) ดอกไม้ของชีวิต


" เงิน " ไม่ใช่สิ่งสำคัญจริงหรือ ?  อะไรคือความพอดิบพอดี ในการทำงานหาเงิน ?  
พบการบอกเล่าเรื่องราวผ่านบล็อก  " บริหารใจ สไตล์ส้มโอ " 
        อีกมุมมองที่ช่วยเก็บเกี่ยวความสุข   ให้เรามีทั้งชีวิต    และเหตุผลที่ทำให้อยากมีชีวิต

เรามักได้ยินบ่อย ๆ  กับคำพูดสวยหรูว่า เงิน " ไม่ใช่สิ่งสำคัญ   แต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต   เพราะไม่ว่าจะกิน  จะนอน  เจ็บป่วย   ท่องเที่ยว  เดินทาง   ค่าเล่าเรียนลูก  ฯลฯ    ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น    เป็นเรื่องที่ถกกันมาก  ถึงความพอดิบพอดี ในการทำงานหาเงิน  
             
            ไม่ว่ายังไง  คนเราก็ต้องทำงานเพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้น  แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรลืมอย่างยิ่งคือ    การเก็บเกี่ยวความสุข  ความสบายใจ  ในระหว่างที่เราทำงานหาเงินนั้นด้วย     เมื่อมีเงินสองบาท   บาทแรกเราใช้ซื้อข้าว   อีกบาทซื้อดอกไม้   บาทแรกทำให้เรามีชีวิต  ส่วนบาทที่สองคือเหตุผลที่ทำให้เราอยากมีชีวิต  ผู้เขียนคิดว่าจำเป็นมากที่คนเราต้องมีตรงนี้   บาทที่สองของบางคนอาจเป็นการท่องเที่ยว  การเล่นดนตรี  ช็อปปิ้ง  ออกกำลังกายหนัก ๆ   การทำบุญกุศล  หรือทำอะไรบางอย่างเพื่อคนหมู่มาก  เพื่อชาติ เพื่อชาวโลก   เป็นดอกไม้ของชีวิต    เป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากใช้ชีวิต    ทำให้กระชุ่มกระชวย    ให้ชีวิตมีคุณค่า   มีความหมาย

สำหรับผู้เขียน ดอกไม้ของชีวิต อันดับหนึ่งยกให้การเดินทาง " ท่องเที่ยว " แม้ช่วงหลัง ๆ งาน ภาระความรับผิดชอบ จะไม่เอื้อให้เดินทางท่องเที่ยวไกล ๆ  แบบไปนาน ๆ มากนัก  แต่ก็ไม่ลืมจัดโหมดท่องเที่ยวพักใจ ไว้ในตารางของชีวิตเสมอ   โดยอาศัยช่วงว่างของลูก ๆ ในตอนปิดเทอม 
" ผาหล่มสัก " หลายคนเรียก  ผาเรียงคิว
          เมื่อนึกย้อนถึงตอนที่ยังวัยละอ่อน ทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก ไปหมด  เดินขึ้นภูกระดึงได้ไม่มีเหน็ดเหนื่อย ( แต่ก็แอบแวะพักทุกซำเลย)   แต่ตอนนี้อะไรที่มีบันไดสูงๆ ต้องปีนป่าย  ขอพักอยู่ข้างล่างแล้วกัน   ถ้าต้องขึ้นที่สูง ๆ ใจมันได้ แต่กายไม่อำนวย  เพราะงั้นใครอยากทำอะไร  รีบทำตอนหนุ่ม ๆ สาว ๆ กันเลยนะคะ  ท่องเที่ยวไปเยอะ ๆ เลย ( เหมือนเริ่มแก่ แต่ยอมรับค่ะว่าเป็นอย่างงั้นจริง ๆ ) ทำงาน หาเงิน ไปเที่ยว ทำเลย ทุกวันนี้ แม้ว่าผู้เขียนยังแสวงความตื่นเต้น ยังชอบการเดินทาง แต่ด้วยวัยที่เปลี่ยนแปลง  ไปเที่ยวไหน ขอแบบนอนสบาย กินอิ่ม กินของอร่อย ๆ และเดินทางไปกับคนที่เรารัก ได้เห็นอะไรใหม่ ๆ เท่านั้นก็มีความสุขแล้วค่ะ        

              อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันในการท่องเที่ยวคือ  การเปิดใจรับความสุข  รื่นรมย์ไปกับสิ่งที่ได้พบเจอในระหว่างทางด้วย    ผู้เขียนเคยร่วมทางไปเป็นคณะใหญ่  แต่คนขับเกิดหลงทาง  เนื่องจากมีผู้แนะนำทางลัดให้  สุดท้ายกลายเป็นขับรถอ้อม  จนทำให้ถึงที่หมายช้าออกไป    มีเสียงบ่นจากเพื่อนร่วมทางท่านหนึ่งดังขึ้นตลอดทาง  เมื่อถึงที่หมาย   แม้จะมีทิวทัศน์อันงดงามตรงหน้า    ก็ไม่ทำให้อารมณ์ของท่านนี้เปลี่ยนไปเลย     น่าเสียดายที่อุตส่าห์มาถึง   
               
               จะเห็นได้เลยว่า    ถ้าระหว่างทางไม่สนุกแล้วละก็ ต่อให้ถึงจุดหมาย ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี    ผลลัพธ์แม้จะมีความสำคัญ   แต่การเสพสุขกับกระบวนการของมันนั้น สำคัญยิ่งกว่า    เพราะแม้ถึงเป้าหมายก็อาจไม่มีความสุขก็ได้    เหมือนดังเช่นการใช้ชีวิต ที่เราต้องรู้จักชื่นชมดอกไม้ริมทาง ความงดงามรอบข้างชีวิต  ที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี่เองค่ะ
      
    ดอกไม้ของชีวิตอีกอย่าง ต้องยกให้ หนังสือ "   ผู้เขียนโชคดีที่ไม่ได้เป็นคนบ้าของอะไรเลย      เกิดชาติหน้าก็อยากเป็นคนแบบนี้   ไม่ติดอะไร ไม่บ้ายี่ห้อ   ไม่ได้เสียเงินไปกับเรื่องพวกนี้เลย เงินส่วนใหญ่ใช้ในสิ่งจำเป็นหลัก  ค่ากินอยู่  ค่าเทอมลูก  ให้พ่อแม่ นี่เป็นหลักเลย  แบ่งไปลงทุนส่วนหนึ่ง  แบ่งไว้ท่องเที่ยว  และส่วนหนึ่งหมดไปกับหนังสือ ผู้เขียนใช้เงินประมาณ  20 %  ต่อเดือน หมดไปกับการซื้อหนังสือ  ชอบอ่าน คนใกล้ตัวก็ชอบอ่าน  ( แต่ตอนนี้ Smartphone สามารถโหลดอ่านผ่านแอพ สะดวกและช่วยให้ได้อ่านหนังสือดี ๆ เยอะเลย  เสียค่าธรรมเนียมรายปีไม่ถึงพัน...ทุ่นตังค์ไปได้มากทีเดียว ไม่ได้ช่วยโฆษณานะคะ แต่ Application เปลี่ยนโลกนี้ได้มากจริง ๆ )  อ่านได้ทุกแนว   แต่ที่ชอบเป็นพิเศษคือ  หมวด  How to หลัง ๆ นี่หนังสือแปลของคนจีน เขียนดีมาก  


ท่าเดิน " ชาร์ลี แชปลิน " ของผู้เขียน
ต้องถ่ายภาพไว้ จึงจะเชื่อว่าตัวเอง มีท่าเดินสุดฮาแบบนั้น

อีกภาพ.. เก็บ " หญ้าทะเล อ่าวคุ้งกระเบน " ทำ Thesis ... รู้สึก คิดถึง จริง ๆ

                     หนังสือเป็นครูที่สอนเราได้มาก  บางครั้งเวลาเราเจอบางประโยคมันทำให้ฉุกคิดขึ้นมา เอ๊ะเราลืมใครในชีวิตไปรึเปล่า    มันสอนเราได้หลายอย่าง     ทุกวันนี้มันสอนให้เราเป็นคนแบบนี้ เป็นครูที่สำคัญของเรา   ความรู้   ความคิดความอ่าน   ล้วนได้จากหนังสือทั้งสิ้น



การดู หนัง " ฟัง เพลง  ก็เป็นดอกไม้ยาใจให้ชีวิตอีกหนึ่งสิ่งของผู้เขียน    เพลง " ก่อให้เกิดความสะเทือนใจ   และทำให้มีกำลังใจขึ้นมาได้    บางวันฟังเพลงดีๆมันทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต     เพลงในดวงใจของผู้เขียน  ที่ฟังแล้วสบายใจทุกครั้งก็เช่น   ฤดูที่แตกต่าง   และเพลง Live and learn นี่ก็ชอบ   " เมื่อวันที่ชีวิต  เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน.. "    เพลงนี้เป็นธรรมะเลยก็ว่าได้  เป็นเพลงช่วยชีวิต   ให้ผ่านเรื่องหนักๆ ได้อย่างดีเลยทีเดียว     ฟังเพลงหวาน   เพลงซึ้ง   ก็ดื่มด่ำไปตามเนื้อเพลง   บางครั้งก็เพ้อไปว่าอยากร้องได้ไพเราะแบบนั้นบ้าง    เพราะชีวิตจริงผู้เขียนร้องเพลงเศร้า ได้ทั้งฮา  ทั้งซึ้ง มากเลยทีเดียว 555....    หนังดี ๆ  บางเรื่องมีอะไรที่ทำให้เรากลับมาฉุกคิด  อารมณ์หลุดเข้าไปอยู่ในหนัง สนุกตื่นเต้น  หนังโปรดในใจผู้เขียน เป็นซีรีย์   Prison Break  ชอบที่ดำเนินเรื่องเร็ว ตื่นเต้นน่าติดตาม  พล็อตเรื่องง่าย ๆ  น้องชายพาพี่ชายแหกคุก แค่นั้น !  แต่ดำเนินเรื่องดีมาก  ลุ้นตลอดทั้งเรื่อง   IQ พระเอกเป็นเลิศจริง ๆ   แม้ว่าล่าสุด เวนต์เวิร์ธ มิลเลอร์     ผู้รับบท ไมเคิล สกอฟิลด์ เพิ่งประกาศว่าเป็นเกย์ก็ตาม แหม..น่าเสียดายจริง   แต่ก็รับได้ค่ะ... ฮือ ๆๆ....


ลืมไม่ได้เลยสำหรับดอกไม้ของชีวิตผู้เขียนอีกอย่าง นั่นคือ   ลูกชาย     พ่อทองก้อนทั้งสอง   ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต   แม้ว่าบางครั้งจะเหน็ดเหนื่อยเกินบรรยาย    เห็นหน้าพ่อแม่ตัวเองลอยมาทันทีที่ความเมื่อยล้ามาเยือน   ว่าท่านก็คงเหนื่อยแบบนี้ตอนเลี้ยงเรามา    กว่าจะโต ทั้งทางกาย ทั้งความคิด    แต่ลูกก็เป็นกำลังใจให้แม่มากๆ เลยทีเดียว    ความไร้เดียงสาของเจ้าเด็กน้อย    ทำให้แม่มีความทรงจำดี ๆ มากมาย      ค่อย ๆ เรียนรู้ชีวิต ทีละนิด.. ทีละนิด นะจ๊ะ..เจ้าลูกชายตัวน้อย    


           ไม่ง่ายนัก  ที่จะผ่านไปในแต่ละวัน  แต่ก็คงไม่ยาก หากเรารู้จักใช้ชีวิต  โดยหยิบความสุขใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วยกัน     ปีนป่ายภูเขาแห่งชีวิตลูกนี้  พร้อม ๆ กับชื่นชมดอกไม้ริมทาง     ก็ไม่รู้ว่ากฎแห่งจักรวาลมีอยู่จริงไหม  แต่ถ้าได้เริ่มด้วยอะไรดี ๆ วันนั้นทั้งวันจะดีเสมอ     ชาร์จแบตเต็ม  แล้วออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่    มีความสุขกันถ้วนหน้านะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น